วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6
วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
เวลา 12:30 - 15:30 น.

เนื้อหาที่เรียน
นำเสนอคำคม







นำเสนอตัวอักษรชื่อผู้บริหาร

ตัวอย่าง






โครงสร้างขององค์กรและการจัดระบบบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
 การบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีลักษณะการบริหารเฉพาะตัว โดยที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
                1. นโยบาย และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
                2. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
                3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
                4. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
                5. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
                6. ปรัชญา นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
                7. ความต้องการของชุมชน

1. การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
                1) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดเล็ก
                2) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดกลาง
                3) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดใหญ่

การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย







2. การแบ่งตามรูปแบบตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ
                (พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 )พ.ศ. 2545 กล่าวไว้ใน มาตรา 15กำหนดการจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ)
                1.รูปแบบในระบบโรงเรียน
                2.รูปแบบนอกระบบโรงเรียน
                3.รูปแบบตามอัธยาศัย
3. รูปแบบการให้บริการแบบใหม่
                คือ การรวมเด็กที่ผิดปกติและเด็กปกติไว้ด้วยกัน โดยเรียกแบบนี้ว่า “Normalization”


หลักในการบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

1. การบริหารงานวิชาการ
                เป็นการบริหารกิจกรรมทุกชนิดในโรงเรียน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาการสอนผู้เรียนให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุด

2. การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาปฐมวัย
                คือ การปฏิบัติการใช้คนให้ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีขบวนการต่าง ๆ
3. การบริหารงานธุรการและการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
                - งานธุรการในสถานศึกษา
                - งานการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
                - งานสารบรรณในสถานศึกษาปฐมวัย
                - งานทะเบียนและรายงาน
                - งานรักษาความปลอดภัย
                - งานการเงินและพัสดุ
                - งานพัสดุ
4. การบริหารงานกิจการนักเรียนในสถานศึกษาปฐมวัย 
                คือ การดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในโรงเรียนโดยนักเรียนสมัครใจร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง

5. การบริหารสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัย
           - การบริหารสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
           - การบริหารสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมและประสบการณ์


การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในยุคปฏิรูป

ความหมาย การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน(School Based Management)

                คือ การบริหารโดยกระจายอำนาจทางการศึกษาไปยังสถานศึกษาโดยตรงให้มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากที่สุด
หลักการในการบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน(School Based Management)
หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
หลักการมีส่วนร่วม (Participation or Collaboration Involvement)
หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน
( Return Power to People)
หลักการบริหารตนเอง (Self - managing)
หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance)

รูปแบบโรงเรียนที่ใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน
ผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก
(Administrative Control School Council )
บริหารโดยครูเป็นหลัก
(Professional Control Council)
การบริหารจัดการโดยชุมชนมีบทบาท
(Community Control School Council)
ครูและชุมชนมีบทบาทหลัก
(Professional Community Control School Council)
สรุปการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ( School-Based Management )
    การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management)
เป็นการถ่ายโอนอำนาจจากหน่วยงานไปให้แก่โรงเรียนได้บริหารแบบ
เบ็ดเสร็จที่โรงเรียนโดยมอบอำนาจการบริหารและจัดการศึกษาให้แก่
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งประกอบด้วยผู้ปกครอง    
องค์กรแห่งการเรียนรู้

ศาสตร์ทั้ง 5 ขององค์กรแห่งการเรียนรู้
(ปีเตอร์ เอ็ม. เซงเก (Peter M. Senge) )
การใฝ่ใจพัฒนาตน (Personal Mastery)
รูปแบบของความคิด (Mental Models)
วิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision)
การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning)

การคิดเชิงระบบ (System Thinking)

การบริหารแบบมีส่วนร่วม
สาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
  • การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการยอมรับในเป้าหมาย
  • การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดความสำนึกในหน้าที่ความ
รับผิดชอบ
ผลดีของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
• สร้างสรรค์ให้มีการระดมกำลังจากบุคคลต่าง ๆ
• สร้างบรรยากาศและพัฒนาประชาธิปไตยในการทำงาน
• ช่วยให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
• การบริหารแบบมีส่วนร่วม
• ผลงานที่เกิดขึ้น
• สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ

ข้อจำกัดของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การแสดงความคิดเห็นเกิดข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร
ก่อให้เกิดกลุ่มอิทธิพล
ผู้บริหารกลัวสูญเสียอำนาจ
การบริหารงานไม่สามารถใช้กับงานที่เร่งด่วนได้
ใช้งบประมาณมาก
ความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
การไม่เข้าใจหน้าที่มักจะทำให้เกิดการก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน

การวิเคราะห์เชิงปฏิบัติ
(
SWOT Analysis Workshop)
SWOT คืออะไร
vคือการวิเคราะห์สำรวจตรวจสอบสภาพภายในองค์กร และสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวางแผน
vS : จุดแข็ง
vW : จุดอ่อน
vO : โอกาส
vT : อุปสรรค
üแต่สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องไม่มองข้ามไปคือ เรากำลังจะเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ ที่อาจจะทำให้บางคนไม่พอใจจากการสำรวจ
üจุดอ่อน:W-จุดแข็ง:Sภายในองค์กร และ
üโอกาส:O-อุปสรรค:Tภายนอก

SWOT ให้คำตอบอะไรกับเรา
1.อะไรคือเรื่องหลักที่เราต้องเผชิญในวันนี้
2.เราจะจัดการกับเรื่องหลักนี้อย่างไร
ข้อสังเกต
v บางคนใช้ SWOT เพื่อตั้งคำถามอย่างเดียว
v บางคนใช้เหตุผลของ SWOT มองข้ามปัญหาไป

เรามาทำความคุ้นเคยกับ SWOT ด้วยกัน
qถ้าคุณมีภารกิจ ที่จะต้องให้บริการที่มีภาพต่อชุมชน ตรงต่อเวลา ข้อมูลน่าเชื่อถือ และมีภาพพจน์ที่ดี
qมีการกำหนดหน้าที่ และภารกิจให้กับทีมงานทุกคน
qภารกิจบรรลุเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชน ในการเพิ่มมูลค่า(Value Creativity) และคุณค่าความเป็นอยู่ในชุมชนดีขึ้น
ใช้ SWOT ในการวิเคราะห์

เรามาเริ่มต้นด้วนการวิเคราะห์จุดแข็ง
S : Strengths
ตัวอย่าง
vงานที่เราถนัด ทำแล้วมีความสุข
vงานที่โดดเด่นที่ชุมชนชื่นชอบ
vอะไรที่ชุมชนมีความต้องการให้เราทำซ้ำอีก
vทรัพยากร และเครื่องมือที่เรามีความพร้อม

เรามาพิจารณาอีกมุมหนึ่งภายในขององค์กร
ของเรา คือจุดอ่อนW : Weaknesses
ตัวอย่าง
งานที่เราไม่สบายใจที่จะทำ
ความต้องการที่จะรับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน หรือทักษะบางอย่างที่เรายังไม่มั่นใจ
ขาดทรัพยากรในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการวิเคราะห์ประเมิน
ภายในองค์กรสมบูรณ์ครบถ้วน
ด้วยการมองสภาพแวดล้อมภายนอก แล้วพิจารณาว่า องค์กรของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จ จากแผนโครงการพัฒนา ด้วยวิธีการทำงานใหม่นี้หรือไม่

ข้อมูลสภาพแวดล้อมในตำบลของเรา  
อุปสรรค : Threats
vการมองถึงอุปสรรค T ไม่ใช่ความคิดที่ไม่มีข้อพิสูจน์
vใช่ว่าเรามองจะโลกในแง่ร้าย มากกว่าโอกาส เพราะว่าเราต้องใช้สรรพกำลังที่มีทำให้งานประสมความสำเร็จ โดยอาศัยปัจจัยด้านอื่นๆอีกสามด้าน คือ SWO
ตัวอย่าง
ใครคือคู่แข่งขันที่ทำได้ดีกว่าเรา
ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนจะทำให้แผนโครงการเรามีปัญหา
ความขัดข้องที่จะเกิดจากเราเอง

สุดท้ายเรามาดูโอกาส : Opportunities
ตัวอย่าง
โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
มีเครื่องมือใหม่ที่ได้รับการสนับสนุน
มีช่องว่างทางการตลาดที่เรามองเห็น
เครือข่ายมีศักยภาพทำให้งานสำเร็จง่ายขึ้น
หมายเหตุ
โอกาสควรที่จะพิจารณาทั้งในระดับมหภาค(ระดับประเทศ ระหว่างประเทศ) และระดับจุลภาค(ระดับครัวเรียน/ระดับหมู่บ้าน/ระดับตำบล)

การสร้างแผนปฏิบัติ
qขั้นต่อไปเราจะทำอย่างไร
qจุดแข็งของทุนเรามีอะไรบ้าง
qจะป้องกันหรือลดจุดอ่อนอย่างไร
qสร้างความได้เปรียบจากโอกาสอย่างไร
qระวังอุปสรรคอย่างไร

การนำไปใช้
นำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในยามที่เราจะเป็นผู้บริหารในอนาคตที่จะจำเป็นต้องใช้ แลัมีแนวทางเนื้อหาการสอนที่ทำให้เราเข้าใจถึงการบริหารสถานศึกษา

ประเมิน
ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังบ้าง ไม่ตั้งใจฟังบ้าง จดบันทึกบ้างไม่จดบ้าง ตั้งใจฟังเพื่อน
ประเมินเพื่อน : เพื่อนตั้งใจฟังจดบันทึก 
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์สอนดี อธิบายเข้าใจง่าย ยกตัวอย่างใกล้ๆที่เรารู้จัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกการเรียนครั้งที่ 16 วัน จันทร์ที่  25 เมษายน พ.ศ. 2561  ความรู้ที่ได้รับ  1.การทำโมเดลโรงเรียน 2.การเขียนโครงสร้างการบร...