วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 16
วัน จันทร์ที่  25 เมษายน พ.ศ. 2561 



ความรู้ที่ได้รับ
 1.การทำโมเดลโรงเรียน
2.การเขียนโครงสร้างการบริหารสถานศึกษ
3.นำเสนอผลงาน
4.นำเสนอคำคม

ตัวอย่าง โครงการขอจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกัน

โครงการขอจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย   โรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกัน
หลักการและเหตุผล
เด็กวัย  ๐ – ๖  ปี เป็นช่วงอายุที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ เพราะเป็นระยะที่ร่างกายมีอัตราการพัฒนาสูงมากโดยเฉพาะทางสมอง ถ้าเด็กได้รับการพัฒนาเลี้ยงดูที่ดี ถูกต้องตามหลักจิตวิทยาและหลักวิชาการอื่น ๆ เด็กก็จะพัฒนาได้เต็มศักยภาพ และสามารถเจริญเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
ในปัจจุบันประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้าน สังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ทำให้เด็กต้องปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และเด็กๆสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข การพัฒนาฝึกฝนให้เด็กมีความรู้ ทักษะที่จำเป็นในด้านต่างๆ ดังนั้นทางโรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกัน จึงได้ดำเนินการตามความพร้อมและความต้องการของประชาชนในชุมชนท้องถิ่นเพื่อจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกันที่สอนเด็กโดยใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับให้การศึกษาและเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย  ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา อย่างเหมาะสมตามวัยและเต็มศักยภาพตลอดจนเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง และเป็นพื้นฐานของการศึกษาระดับสูงขึ้นต่อไป
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกัน ตระหนักถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุนชนท้องถิ่นและความสำคัญของการพัฒนาเด็กปฐมวัย จึงได้จัดทำโครงการจัดตั้ง โรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกันขึ้น
วัตถุประสงค์
           1.  เพื่อให้เด็กในชุมชนได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมตามวัยเท่าเทียมเสมอภาคกันกับต่างประเทศ
           2.  เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กสามารถเข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ

ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา
ข้อมูลทั่วไป
ตั้งอยู่เลขที่  2 วัฒนานิเวศน์ 6 ถนนลาดพร้าว 48  แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
รหัสไปรษณีย์   10310 โทรศัพท์  0-2277-5507   โทรสาร  0-2276-2232
 e-mail  : Thai-American Kindergarten International school@ac.th
 website  : www.Thai-American Kindergarten International school.ac.th


สังกัด  : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
ประวัติโรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกัน 
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกัน ได้เปิดดำเนินการเรียนการสอนมาตั้งแต่  ปี  2540 เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน  ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาเพื่อเด็กไทยและอุดมการณ์ที่แน่วแน่ ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนในระดับชั้นเตรียมอนุบาล ถึงชั้นอนุบาล 3 เปิดดำเนินการสอนแบบสองภาษา  (MEP)  ในระดับปฐมวัยโดยมีครูต่างชาติและครูไทยจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
คำขวัญ
          เด็กดีมีคุณธรรม มุ่งสู่สากล บนพื้นฐานความเป็นไทย
วัตถุประสงค์เฉพาะของโรงเรียน
1. เพื่อให้เด็กได้พัฒนาทักษะทางสังคม ปรับตัวสู่สภาพแวดล้อมในสังคมโรงเรียนรอบตัว
2.  เพื่อพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม จัดการเรียนการสอนตามระบบอเมริกันในประเทศไทย

ปรัชญาของโรงเรียน
       พัฒนาเด็กปฐมวัยเต็มตามศักยภาพสอดคล้องกับพัฒนาการทางด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ - จิตใจ ด้านสังคมด้านสติปัญญา และเป็นไปโดยธรรมชาติภายใต้สิ่งแวดล้อมที่อบอุ่น  ปลอดภัยเป็นอิสระผสมผสานศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

วิสัยทัศน์
        มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ควบคู่การใช้เทคโนโลยี มีคุณธรรมจริยธรรม สืบสานภูมิปัญญา  พัฒนาประสิทธิภาพทางการบริหาร มีแหล่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียน
 
คติพจน์ของโรงเรียน
       สุวิชาโน ภะวัง โหติ ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ

ปณิธานของโรงเรียน
        คณะครูและนักเรียน จะยึดมั่นในคุณธรรมและความดี เพื่อรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของโรงเรียน อันเป็นที่รักของพวกเรา

พันธกิจ
1. จัดหลักสูตรการเรียนรู้ที่สนองความต้องการของผู้เรียน และทันต่อการเปลี่ยนแปลงในสังคมโลกมุ่งสู่สากล เสริมสร้างนักเรียนมีศักยภาพเป็นพลโลก
2. ปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอน โดยใช้สื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย
3. จัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา คุณภาพผู้เรียนทุกด้านมีค่านิยมอันดีงามและทักษะการดำเนินเนินชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข โดยสันติวิธีในระบบประชาธิปไตย
4. พัฒนาบุคลากรทุกฝ่ายของโรงเรียนให้มีความรู้ความสามารถในหน้าที่ที่รับผิดชอบและนำศักยภาพนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนานักเรียน
5. ส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างโรงเรียน บ้าน และชุมชน ในการระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน
. ข้อมูลด้านการบริหาร

3. ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน
ระดับชั้นที่เปิดสอน ดังนี้เปิดสอน
–  นักเรียนชั้นอนุบาล  1      (อายุ  3  ขวบ)       1  ห้องเรียน
–  นักเรียนชั้นอนุบาล  2      (อายุ  4  ขวบ)       1  ห้องเรียน
–  นักเรียนชั้นอนุบาล  3      (อายุ  5  ขวบ)       1  ห้องเรียน
รวมมีนักเรียนทั้งหมด   90 คน  มีเด็กพิเศษจำนวน  10 คน
จำนวนบุคลากร  23  คน  

4. ข้อมูลครูและบุคลากร




5. ข้อมูลดานอาคารสถานที่
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกัน ตั้งอยู่เลขที่  2 วัฒนานิเวศน์ 6 ถนนลาดพร้าว 48  แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์  10310  มีอาคารดังนี้
- อาคารเรียน    จำนวน     1 หลัง
- โรงอาหาร      จำนวน    1 หลัง
- ห้องน้ำ         จำนวน    10 ห้อง
- สระว่ายน้ำ     จำนวน    1  สระ
- สนามเด็กเล่น   จำนวน    1  สนาม
- สวนปลูกผัก    จำนวน    1  แปลง




7. สภาพชุมชนโดยรวม
ชุมชนรอบของโรงเรียนเป็นหมู่บ้านจัดสรรและคอนโด ซึ่งทำให้มีความสงบ สะอาด และเป็นกันเอง ชุมชนให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนในการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ให้กับเด็กๆ โดยเส้นทางสัญจรมีความสะดวก ด้านหน้าทางเข้าโรงเรียนมีสถานวิสาหกิจทางการเงินขนาดใหญ่ และมีห้างสรรพสินห้างขนาดใหญ่ของใกล้ๆ ไม่ว่าจะโรบินสัน เซ็นทรัลพระราม9 ฟอร์จูน บิ๊กซีรัชดาภิเษก


8. โครงสร้างหลักสูตร
หลักสูตรเตรียมอนุบาลและระดับอนุบาล
การจัดการเรียนการสอนระดับชั้นเตรียมอนุบาลและอนุบาลของโรงเรียนThai-American Kindergarten International schoolมุ่งเน้นพัฒนาทักษะพื้นฐาน เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาต่อไป ครูผู้สอนมีความเชี่ยวชาญการสอนระดับปฐมวัยและพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของเด็กแต่ละคน สอนให้นักเรียนรู้จักสังเกต ค้นพบ และเจริญเติบโต  ห้องเรียนกว้างขวาง มีสื่อการเรียนการสอนครบ เพื่อให้นักเรียนมีพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านวิชาการ สังคม และอารมณ์
ได้จัดการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ใส่ใจในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับเด็กเล็กเพื่อการพัฒนาทักษะพื้นฐาน โดยเฉพาะได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่ กระตุ้นให้เด็กเรียนรู้ มีประสบการณ์เรียนรู้ ค้นคว้า สำรวจ สู่โลกกว้าง เด็กๆได้ความสนุกสนานเพลิดเพลินและอุปกรณ์การเรียนครบครัน พัฒนาการทางด้านร่างกาย ด้านสังคม และด้านอารมณ์
นักเรียนระดับเตรียมอนุบาล มีอายุระหว่าง 2-4 ปี การจัดการเรียนการสอนมุ่งเน้นพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้านสังคม ด้านอารมณ์ และด้านร่างกาย เพื่อให้เด็กวัยนี้สนุกสนานกับการเรียนรู้ ครูจะนำนักเรียนให้เรียนรู้ผ่านการเล่นที่มีประโยชน์ สนุกสนาน และเสริมสร้างการเป็นผู้นำในอนาคต
นักเรียนระดับชั้นอนุบาลปี 1-2 มีอายุระหว่าง 5-6 ปี  การจัดการเรียนการสอนมุ่งเน้นพัฒนาการด้านการสื่อสารและการให้ความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้จักตนเอง มีความรับผิดชอบ และสามารถช่วยเหลือตนเองได้ เด็กวัยนี้เริ่มเรียนรู้การออกเสียง ทักษะการอ่านเริ่มต้น พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการเล่นเกม การร้องเพลง และกิจกรรมเสริมประสบการณ์การเรียนรู้


9.แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้
วัดกุนนทีรุทธาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และศูนย์รวมจิตใจของศาสนาพุทธ เพื่อให้เด็กได้มาเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของไทย
สยามนิรมิต เป็นสถานที่แสดงการละเล่นต่างๆ มีร้านขายของอยู่ข้างใน เป็นลักษณะวิถีแบบไทยโบราณมีวัดวาอารามเป็นแบบจำลองให้ถ่ายรูปเหมาะแก่การพาเด็กๆ มาเรียนรู้ศึกษาวิถีของไทยในอดีต และรู้ความเป็นมาและเกิดความรักในประเทศที่ตัวเองอยู่


10. ผลงานดีเด่นในรอบปีที่ผ่านมา
Accreditations and Affiliations การรับรองระบบและการเป็นพันธมิตร
The Federation of America International Schools in Asia   สมาพันธ์โรงเรียนนานาชาติอเมริกันแห่งอาเซียน
International Schools Association of Thailand   สมาคมโรงเรียนนานชาติแห่งประเทศไทย
Council of International Schools   สภาโรงเรียนนานาชาติ

บันทึกการเรียนครั้งที่ 1ุ5
วัน จันทร์ที่  18 เมษายน พ.ศ. 2561 

ไม่ได้ไปเรียน

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนครั้งที่ 14
วัน จันทร์ที่  11 เมษายน พ.ศ. 2561 

หยุดวันสงการณ์

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 13
วัน พุธ ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

นำเสนอคำคมเกี่ยวกับผู้บริหาร

1.นำเสนอโดยนางสาวศิริพร บุญประคม


















2.นำเสนอโดยนางสาวสุดารัตน์ อาจจุฬา







3.นำเสนอโดยนางสาวนิตยา นนทคำจันทร์





เรียนเรื่อง กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร




ความหมาย ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านวิชาการในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น ทุกคน   ทุกฝ่ายนับเป็นองค์ประกอบสำคัญ การเป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไป
ด้วยกัน อย่างไว้ใจและเชื่อว่าจะชี้แนะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องด้วยน้ำใจมิใช่อำนาจ คือ หนทางแห่งกัลยาณมิตร นักวิชาการ
นิเทศ ได้กล่าวเกี่ยวกับการนิเทศที่คำนึงถึงฐานวัฒนธรรมไทยว่า 
          - ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร 
          - ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ 
          - ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ 
          - ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน 
          - การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน

กัลยาณมิตร ๗ ประการในการนิเทศ
1. ปิโย - น่ารัก สบายใจ สนิทสนม ชวนให้อยากปรึกษา 
          2. ครุ - น่าเคารพ ประพฤติสมควรแก่ฐานะ อบอุ่น เป็นที่พึ่งปลอดภัย 
          3. ภาวนีโย - น่ายกย่อง / ทรงคุณความรู้ /ภูมิปัญญาแท้จริง และหมั่นปรับปรุงตนอยู่เสมอ 
          4. อตตา จ - รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าควรพูดอะไร อย่างไร เป็นที่ปรึกษาที่ดี 
          5. วจนก ขโม - อดทนต่อถ้อยคำ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษา / คำถามคำวิพากษ์วิจารณ์ 
          6. คมภีรญจ กถ กตตา - แถลงเรื่องลึกล้ำได้ อธิบายเรื่องที่ยากให้ง่ายได้ 
          7. โน จฏฐาเน นิโยชเน - ไม่แนะนำเรื่องเหลวไหล แนะไปในทางเสื่อม 

 องค์ประกอบของกัลยาณมิตร
    1. ให้ใจ - การปฐมนิเทศสร้างความเข้าใจร่วมกัน 
          2. ร่วมใจ - การร่วมคิด ร่วมทำงาน แลกเปลี่ยนรู้ซึ่งกันและกัน 
          3. ตั้งใจ - เป็นการร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพในการทำงาน 
                       + มุ่งมั่นสู่เป้าหมายร่วมกัน 
                       + ช่วยกันแก้ปัญหา 
                       + ถือว่าผลงานคือคุณภาพของผู้เรียน 
          4. เปิดใจ - การวัดและประเมินตนเอง ประเมินผลงาน 
                       + ประเมินผลการพัฒนาการอย่างเที่ยงตรง 
                       + ปราศจากอคติ 
บทบาทของผู้บริหารในการนิเทศ
¢กระบวนกัลยาณมิตร เป็นการปฏิบัติจริงในสภาพที่เป็นจริง ผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศต้องมีการปรึกษาหารือ ติดต่อสื่อสาร เยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยน
เรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาและให้กำลังใจกัน
¢ ถ้าจะเปรียบผู้นิเทศก็เป็นเหมือนครูฝึก ( coach ) ของผู้สอน ที่จะต้องโดดลงไปร่วมคิดร่วมทำ มิใช่เพียงร้องบอกให้ผู้สอนลองผิด ลองถูก ตาม
ยถากรรม อาจต้องบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดุ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ
¢  การพบปะสนทนาเมื่อเวลานิเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ กรรมการศึกษา ชุมชนรอบๆสถานศึกษา จะได้ทราบทุกข์ สุข และก่อให้
เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐาน เพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานต่อไป 
แนวทางการนิเทศ
     1. สร้างความสัมพันธ์ แจ้งภารกิจและความมุ่งหมาย จัดเวลา กำหนดวิธีการทำงาน
    2. จัดนิทรรศการทางวิชาการและสาธิตรูปแบบการสอน
    3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดบริการเอกสารทางวิชาการ
    4. วางแผนร่วมกัน เพื่อศึกษาดูงาน
    5. แนะให้ปฏิบัติตามสภาพจริง
    6. พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบัติ และหาทางแก้ไขปรับปรุง
    7. เข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส
    8. นำเสนอผลงานในการประชุมปฏิบัติการ
    9. วัดและประเมินผลงานกัลยาณมิตรนิทศ 
สรุปประเด็นสำคัญ
หลักการสำคัญ พึงตระหนักว่าการนิเทศนั้นมิใช่การสั่งการ ตรวจสอบ บังคับบัญชา มิใช่การนิเทศกระดาษ แต่เป็นการนิเทศคน กระดาษ เป็นแผนการสอน คะแนนผลสัมฤทธิ์ หรือโครงการ เป็นองค์ประกอบที่แสดงร่องรอยการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุด      ผู้นิเทศต้องนิเทศคน พูดคุยกับครู ดูพฤติกรรมของนักเรียน สังเกตบรรยากาศและความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้นั้นเพื่อเข้าถึงสถานภาพและปัญหา นำไปสู่แนวทางการนิเทศที่ถูกต้อง 

          สรุปเป็นบทร้อยกรองว่า 

                 ไม่ตั้งตนเป็นคนเหนือคนอื่น ควรหยิบยื่นสิ่งดีดีมีมอบให้ 
                 เสนอแนะให้ขวัญกำลังใจ แสดงว่าจริงใจไม่ทิ้งกัน 
                 ฟังข้อมูลหนุนให้ทำนำให้คิด ชี้ถูกผิด แนะทางอย่างสร้างสรรค์ 
                 นำเทคนิคพลิกแพลงมาแบ่งปัน เป็นเพื่อนขวัญบนเส้นทางย่างก้าวเดิน 


ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเป็นบางช่วง
ประเมินเพื่อน : เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจจดบันทึก
ประเมินอาจารย์ : อธิบายเนื้อหาเพิ่มได้อย่างเข้าใจ
บันทึกการเรียนครั้งที่ 12
วัน พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561


ได้ไปศึกษาการเรียนรู้นอกสถานที่ 

เว็บโรงเรียน https://phithuksa.wixsite.com/childdevelopcenter/blank

หลักสูตร
หลักสูตร ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน
พิทักษา  จัดการเรียนการสอน
ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๔๖  กำหนด
ช่วงอายุเด็ก ๒-๕ ปี ในระดับชั้นเตรียมพร้อมถึงอนุบาล ๓ กำหนดเวลาเรียน ๒ ภาคเรียน


ประวัติศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา
          สำนักงานอนามัยกรุงเทพมหานครได้จัดการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำชุมชนวัดอมรทายิการามขึ้น หลังจากนั้นกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขได้สำรวจปัญหาในชุมชนพบว่า
มีปัญหา 2 ประการ คือ ปัญหายาเสพติด และปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเด็ก  กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขจึงตัดสินใจเลือกแก้ปัญหาสุขภาพเด็ก
โดยจัดตั้ง “ศูนย์รับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา” โดยขอความอนุเคราะห์เรื่องสถานที่จาก
ท่านพระครูวิบูลธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดอมรทายิการาม  เริ่มแรกท่านให้ใช้กุฏิเก่าของท่าน
มีจำนวนเด็ก 40-50 คน มีอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก 4 คน ต่อมากุฏิเก่าเริ่มชำรุดทรุดโทรม
ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ท่านเจ้าอาวาสจึงอนุญาตให้สร้างอาคารหลังใหม่ เป็นอาคารชั้นเดียว
โดยมีคณะสงฆ์ ครูและผู้ปกครองร่วมกันก่อสร้าง ได้รับการสนับสนุนทุนสร้าง
จากสำนักงานเขตบางกอกน้อย ผู้ปกครองนักเรียน คณะครู และได้เปลี่ยนชื่อเป็น
“ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา” เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่  11 ตุลาคม  พ.ศ. 2527
ในปี พ.ศ.2530 ได้เปิดอย่างเป็นทางการ สภาสตรีแห่งชาติและสภาสังคมสงเคราะห์ได้
ส่งอาสาสมัครเข้ารับการอบรมเสริมทักษะด้านการเลี้ยงดูเด็ก และอาหารเสริม  ต่อมา ได้เข้าสังกัด กองสังคมสงเคราะห์ กรุงเทพมหานคร ได้รับค่าตอบแทนวันละ 40 บาท อาสาสมัครจำนวน 4 คน ในปี พ.ศ.2536 กองพัฒนาชุมชนได้รับช่วงต่อมา  ให้การสนับสนุนโดยขึ้นค่าตอบแทน  80บาทต่อวัน  ทำงานและส่งเสริมพัฒนาอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก ในเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เด็กแรกเริ่มอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กมีวุฒิการศึกษา ปวช., ม.6, ม.3 เข้ามาทำงานด้วยใจรักเด็ก ไม่หวังค่าตอบแทน  ต่อมาได้ศึกษาต่อด้วยทุนตนเอง จนจบอนุปริญญา และปริญญาตรี 
เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาตนเองและนำความรู้ใหม่ ๆ มาสอนเด็ก ส่วนพวกไม่มีทุนเรียนจะได้รับการอบรมในองค์กรต่างๆ  จากนั้นสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ได้สนับสนุนค่าตอบแทน เพิ่มเป็น 5,640 บาทและทำประกันสังคมให้ 
            ปัจจุบันมีนักเรียนอายุ  2 – 6 ปี  จำนวน 400-500 คน มีอาสาสมัครดูแลเด็กจำนวน  35 คน ได้สร้างอาคารเรียนเพิ่มเป็นอาคารเรียนเป็น 3 ชั้น  และใช้หลักสูตร
การศึกษาปฐมวัย 2546  จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้มีพัฒนาการครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนการสอน ด้านสภาพแวดล้อมให้เจริญตามลำดับมีอาสาสมัครชาวต่างชาติจาก หน่วยงานCross-Cultural Solutions (CCS) องค์กรอาสาสมัครนานาชาติ จดทะเบียนที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดส่งอาสาสมัครชาวต่างชาติมาช่วยสอนภาษาอังกฤษ ทำให้ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษาเป็นที่รู้จักและทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง

โครงสร้างการบิหาร




ภาพการศึกษางาน






จากการศึกษางานครั้งนี้ ได้ทั้งความรู้การบริหารศึกษา และยังได้การทำสื่อและ การนำสื่อมาให้เด็กได้ทำ


บันทึกการเรียนครั้งที่ 16 วัน จันทร์ที่  25 เมษายน พ.ศ. 2561  ความรู้ที่ได้รับ  1.การทำโมเดลโรงเรียน 2.การเขียนโครงสร้างการบร...